วันพุธ, สิงหาคม 24, 2559
การค้นหาคุณค่าของตัวเอง
ในวันที่ เราสูญเสียความมั่นใจที่สุด
เราอาจรู้สึกว่า เราไม่มีค่า แต่
สำคัญ มาก คือการหาคุณค่าตนเอง ให้เจอ
เพื่อทำในสิ่งที่ต้องการต่อไป
วันจันทร์, สิงหาคม 15, 2559
หนังสือ THE DIGITAL ECONOMY
หนังสือ THE DIGITAL ECONOMY
สวัสดี เย็นวัน จันทร์ค่ะ เป็นวันที่เริ่มทำงานวันแรกหลังจากหลายๆคนหยุดพักผ่อนกับเทศกาลวันหยุด
เรานั่งอ่านหนังสือ อยู่ 1 เล่ม คือ THE DIGITAL ECONOMY
ในยุคที่สังคมใครๆก็พูดถึงศตวรรษ ที่ 21 เป็นยุคแห่งความรู้ คนที่มีข้อมูลข่าวสารที่สุด ที่จะอยู่รอดหรือได้โอกาส ในการทำงานมากขึ้น เรียกได้ว่ามีที่ยืนนั่นเอง
ซึ่งเรื่องนี้เราได้ค้นพบจากการอ่าน มาหลายเล่ม แต่ก็พอมาเจอ หนังสือ เศรษฐกิจดิจิทัล นั่น เป็นหนังสือที่เขียนโดย Dob Tapscott เป็นหนังสือแปล ค่ะ ซึ่งผู้เขียนมีผลงานที่น่าสนใจมาก ซึ่งเรียกได้ว่าเล่มนนี้เขียนมาแล้ว 20 ปี และมาปรับปรุงเพิ่มเติม เราได้ข้อคิดว่าคนนี้ เค้าคาดการณ์และมองการณ์ไกลมาก ทำให้เราเปิดความคิดและสามารถ นำความคิดเห็นที่ได้ มาใช้ในชีวิตประจำวันและต่อยอดได้ดีทีเดียว
ซึ่งเราข้อได้แนวคิด สำคัญ บางอย่าง
"การที่มนุษย์ควบรวมเอา ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ สติปัญญา วิ่งผ่านไปผ่านมาบนเครื่องจักรอัจฉริยะเพื่อทำให้สังคมและและความมั่งคั่งเพิ่มพูน มันไม่ใช่ยุคที่เราเชื่อมเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าหากัน แต่เป็นมนุษย์ต่างหากที่ถูกเชื่อมโยง”
เนื้อหาในนี้ มีลายละเอียดเยอะมากค่ะ สนุกและน่าสนใจ
เราขอจับประเด็น เรื่อง แรงงาน กับยุคเศรษฐกิจดิจิทัลในปัจจุบันในทัศนของเราที่มองเห็นในปัจจุบัน
ประธานบริหารกรูเกิล บอกเอาไว้ว่าในอีก 20 – 30 ปี ข้างหน้านั้น ปัญหาการว่างงานจะกลายเป็นประเด็นใหญ่สุดแห่งยุค
เกิดความเปลี่ยนปลงหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการจ้างงาน ความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ คุณภาพของชีวิตที่เปลี่ยนไปในขณะที่เทคโนโลยีเปลี่ยนไปมากมาย (อ้างอิงจาก หนังสือ THE DIGITAL ECONOMY)
ตัวอย่าง เราพยายามจะเชื่อมโยงประเด็นว่า ในสิ่งที่วิเคราะห์ในปัจจุบันเราจะเริ่มเห็นหลายๆองค์กรเริ่มลดคนลงและพยายามลดคนลงซึ่งเราจะเห็นตัวเลขการว่างงานที่เพิ่มขึ้นสามารถสืบค้น อัตราการว่างงาน จำแนกตามเพศ เป็นรายไตรมาส ทั่วราชอาณาจักร พ.ศ. 2550 - 2559 ได้จาก http://service.nso.go.th/nso/web/statseries/statseries04.html
จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติที่ทำการสำรวจในเดือนพฤษภาคม 2559 ปรากฏว่า มีกำลังแรงงานประมาณ 37.77 ล้านคน เป็นผู้มีงานทำ 36.81 ล้านคน ผู้ว่างงานจำนวน 4.53 แสนคน (คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 1.2) และผู้รอฤดูกาล 5.02 แสนคน
โดยในปัจจุบัน เราอาจได้ยินมาในส่วนของยุค อุตสาหกรรม 4.0 มากขึ้นในช่วงกลางปี 2559 นั้น มีการเปลี่ยนแปลงขอองทักษะแรงงาน แรงงานเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเราจะเห็นการเลิกจ้างหรือปลดพนักงานบ่อยครั้งขึ้นตามหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นยุคที่เริ่มเปลี่ยนผ่านอย่างเต็มตัวหลายๆองค์กรเริ่มปรับตัวมากยิ่งขึ้นขนาดขององค์กรอาจเล็กลงแต่เพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีเข้าไป จาก Labour เป็น Intelligence Worker มากขึ้น
ในยุคที่ เศรษฐกิจมีเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น หลายองค์กรก็ต้องมีการเปลี่ยนปลงรวมถึงตัวเราเองด้วยเช่นกัน
พรุ่งนี้เราจะมาติดตาม แรงงานในยุคเศรษฐกิจดิจทัล อีกครั้งค่ะ
วันศุกร์, สิงหาคม 12, 2559
ข้อคิดจาก หนัง The Truman Show
The Truman Show
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากหนัง The Truman Show เป็นหนังที่ดูแล้ว เข้ากับบรรยากาศวันนี้เป็นแม่หน่อย สิ่งที่คนทุกคนเกิดมาย่อมอยากจะมีความคิด หรือการใช้ชีวิตเนของตัวเอง
ขอเกริ่นถึงหนังเรื่องนี้ ก่อน คือ เป็นหนังที่พระเอก คือ ทรูแมน ที่ถูกถ่ายทอดชีวิต เรียกง่ายๆตามความเข้าใจ คือ สร้างโลกให้เหมือนกับเค้าอยู่ในโลกปกติแต่ชีวิตถูกถ่ายทอดตั้งแต่ในครรภ์จนโต เป็เวลากว่า 20 กว่าปี โดยมีผู้กำกับงานกับนักแสดงร่วมกัน หลายๆคนที่สร้างโลกแสดงขึ้นโดยที่ทรูแมนนั้น เข้าใจและคิดว่า คือการดำเนินชีวิตที่ปกติ
เหตุการณ์ที่ 1 แต่ด้วยความที่ทรูแมนมีความฝันจะออกจากพื้นที่โลกที่เขาอยู่ เขาจึงพยายามหลายครั้งมากที่จะออกจากพื้นที่ หลายครั้งบนถนนที่ถูกสร้างว่าดดนตัดขาดอยู่ในหมู่เกาะที่ถูกสร้างขึ้น ถูกหลอกให้กลัว ตั้งแต่ เด็กโดยไปเล่นที่เรือใบกลางทะเลกับพ่อจนกระทั่ง พายุพัด จนเขากลัวไม่กล้าออกทะเลอีก นี่ล่ะได้ข้อคิดเลยว่า บางครั้ง ความกลัว คือ ฉากที่เราสร้างขึ้นฝังใจปิดกลั้นให้เราไม่กล้าที่จะทำมันอีก
และตัดมาถึงที่ทรูแมนพยายามหลบหนีจากสายตาที่รู้สึกว่ามีคนมองตลอดเวลาจึงพยายามออไปทะเล และถูกพายุพัดกระหน่ำโดยผู้กำกับเพื่อให้เค้ากลัว แต่เค้าไม่ยอมแพ้ผูกตัวเองกับเรือ เพื่อที่จะเอาตัวรอดจนผู้กำกับยอมลดพายุ ทำให้เค้าพยายามอีกครั้งออกจากทะเลจนไปสุดกำแพงที่โลกละครสร้างขึ้นซึ่ง 20 กว่าปีเค้าไม่เคยรู้เลย และไปจนสุดฝากฟ้า คือ กำแพงเค้าพยายามทุบกำแพงแต่ไม่สามารถทำได้เค้าเหลือเห็นกำแพงที่อยู่จึงเดินไปที่บันใดและพยายามเดินขึ้นจะก้าวออกจากประตู
แต่เสียงจากผู้กำกับนั้น บอกให้เค้ากลับเข้ามาไม่ว่าจะโลหนี้หรือโลกไหน ก็มีความหลอกลวงเช่นกัน โลกที่เค้าสร้างให้ทุกอย่างจะปลอดภัย
แต่ทรูแมนตัดสินใจจะออกไป อยู่ดี
นี่คือ ฉากจบ ได้ ข้อคิด คือ
ไม่ว่าคนเราอยากดีมีจน แค่ไหน คนเรามีความฝันและอยากมีชีวิตเนของตนเอง
หากเราล้าที่จะฝ่าความกลัวในแบบที่มันควรจะเป็นทำให้เราเลือกในสิ่งที่ต้องการได้
สุขสันต์วันแม่ค่ะ
ขอบคุณภาพจาก
https://ncowie.wordpress.com/category/the-truman-show/
วันอาทิตย์, สิงหาคม 07, 2559
ข้อคิดที่ได้จากงานวิจัย เกี่ยวกับแรงงานในอาเซียน
ต้องขอบอกว่า ก่อนจะหยิบงานวิจัยชิ้นนี้มาอ่าน จากเว็บของกระทรวงแรงงาน ทำให้เราได้ข้อคิดหลายอย่างเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการค้นคว้าหาข้อมูลทำให้เราเปิดกว้าง เรื่อง หลักคิด หรือชีวิตในการทำงาน การดำรงชีวิต จุดเด่นของงานวิจัยที่อ่านมีหลายอย่าง แต่เรามาสะดุด กับงานวิจัยส่วน ในเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาที่ของประเทศไทยที่อันดับตามท้ายประเทศเพื่อนบ้านอยู่บ้าง แต่ที่น่าเรียนรู้คือ ประเทศสิงค์โปรที่คุณภาพการศึกษานั่นเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน อยากให้ลองไปค้นคว้าหาอ่านดูค่ะ
1. ทำให้เราเห็น Model การพัฒนาประเทศต่างๆ
2. ทำให้ทราบโครงสร้างของประชากรแต่ละประเทศ
3. ภาพใหญ่ของการดำเนินงานรวมถึงกลยุทธ์และแนวทางด้านการจัดการแรงงาน ในแต่ละประเทศ
4. แนวทางด้านการจัดการแรงงานในแต่ละประเทศ
เพราะผู้อ่านเตรียมตัวที่จะศึกษาจึงค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อที่จะเรียนต่อ งานวิจัยนี้เปิดกว้างในแนวทางการหาอาชีพหางานทำมากพอสมควร ทำให้เรารู้ตลาดแรงงาน ว่าในแต่ละประเทศต้องการแรงงานแบบไหน อะไรบ้างที่เข้ากับเรา และจะเดินต่อไปยังไง
ซึ่งผู้เขียนเองมิอาจวิจารณ์หรือให้ความเห็นได้มากมาย แต่เมื่อเราค้นหาข้อมูลหลายๆอย่างทำให้เรารู้และรู้ว่าอะไรจริงบ้างไม่จริงบ้าง เป็นข้อมูลให้เราตัดสินใจหลายๆอย่างในชีวิตได้ดีขึ้น
เพราะตัวราเองก็เป็นเด็กบ้านนอก สำคัญคือ เด็กๆ ต้องมีคนชี้แนะแนวทางที่ถูกต้อง อันนี้สำคัญ ที่เด็กๆคนหนึ่งจะไปได้ไกล เล่มนี้น่าอ่านลองเข้าไปโหลดข้อมูลมาอ่านเล่นๆกันนะคะ ที่ เว็บ ของกระทรวงแรงงาน
หัวข้อ โครงการศึกษาวิจัยฐานข้อมูลกลางด้านตลาดแรงงานในภูมิภาคอาเซียน
บทต่อไปเราค่อยมาศึกษาลงประเด็นแต่เล็กๆ...ในแต่ละประเทศตอนต่อไป ค่ะ ที่น่าสนใจกับแรงงาน คือ เรืองการศึกษาแต่ละประเทศ นี้ล่ะค่ะ น่าสนใจ
ขอเกริ่นไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ
วันศุกร์, สิงหาคม 05, 2559
สิ่งที่ได้เรียนรู้ จากหนัง Joy: ไม้ม็อบเปลี่ยนชีวิต
ขอบคุณภาพจาก : http://www.majorcineplex.com/news/joy-story3
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากหนัง เรื่อง จอย แม่บ้านคนหนึ่งที่วิ่งทำงานหัวหมุนดูแลครอบครัวทุกอย่าง พบชีวิตที่บัดซบ คือ ความล้มเหลวที่ไม่รู้ว่าจะเอาดีหรือมีชีวิตที่ดีได้ยังไง ครอบครัวอย่าร้าง แต่เพราะ เธอมีคุณยาย มีมี่ ที่บอกเธอตลอดเวลาว่าเธอเป็นคนที่สามารถเป็นผู้นำครอบครัวได้ แต่กว่าที่ผู้หญิงคนนี้จะฝ่าฟันหรือผงาดขึ้นมาได้ ก็พบกับความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าไม่น้อย
ตอนเด็กเธอมีพรสวรรค์ในการประดิษฐ์สิ่งของ แต่ก็พับไว้จนกระทั่งเธอขึ้นไปเที่ยวบนเรือนั้นทำให้เธอ ได้เจอกับเหตุการณ์ที่ต้องถูพื้นที่เต็มไปด้วยเศษแก้วแล้วบิดม๊อบ ถูพื้นจนมือเป็นแผล
กลับมาบ้านทำให้เธอคิดอะไรได้บางอย่าง จนกระทั่งเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินเรื่อง กลายเป็นการประดิษฐ์ม๊อบถูกพื้น และนำเข้าสู่การนำเสนอขายที่ต้องผ่านอุปสรรคหลายอย่างมาก จนทำให้เธออยากท้อถอยแต่ก็ทำให้เธอลุกขึ้นมาสู้
ข้อคิด ที่ได้จากหนังเรื่องนี้ คือ ในช่วงเวลาที่เราย่ำแย่ที่สุดลองสังเกตุ ดูดีๆว่า เราจะมีคนที่คอยฉุดหรือคอยช่วย เพื่อจะผ่านตรงนี้ไปได้
1. การที่คนเราจะเข้าไปหรือก้าวผ่านอะไรซักอย่างหนึ่งในชีวิตได้ เราต้องมีคนช่วย แต่ไม่ใช่ว่าเรารอความช่วยเหลือจากคนอื่นเพียงอย่างเดียว สำคัญคือเราต้องหาคนที่คอนเน็ค หรือคนที่เชื่อมต่อเราไปอีกจุดหนึ่งก็ได้
2. อย่าแคร์คำพูดใคร เอาหัวใจเราเข้าชน เตรียมพร้อมและรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น
3. การทำงานหนักไม่ใช่เรื่องน่าอาย ต่อให้เราทำงานที่ต้องใช้แรงงานหรือยืนแจกใบปลิวข้างถนนแล้วมีคนไล่
4. ช่างแม่ง 555 ข้อนี้มันส์
5. เรื่องนี้ให้ข้อคิดเลยว่า การทำงานหรือเริ่มต้นทำอะไรต้องมีความรู้ ไว้ป้องกันตัวเองสำคัญจริงๆ ค่ะ
ลองไปหาดูนะคะเพื่อได้แนวคิดหรือสิ่งที่ได้เรียนรู้มากกว่าการดูหนัง ซึ่งไม่ใช่เรื่องไร้สาระแน่นอนค่ะ
จริงใจต่อสิ่งที่ทำ เอาความดี ความถูกต้องเข้าสู้ แล้ววันหนึ่งเราจะค้นพบอะไรบางอย่าง
สู้ๆ ค่ะ
วันจันทร์, สิงหาคม 01, 2559
ข้อคิดจาก คอนเสิร์ต
การใช้ชีวิตบางที มันก็เหมือนกับเราพยายามฝ่าฝูงชน เพื่อจะไปให้ถึงหน้าเวที
คอนเสิร์ต
โดนชน โดนเบียด โดยกระแทก ล้มแล้วโดนเหยียบบ้าง เผลอใจไปกับ บูทขายของต่างๆบ้าง
สายตาโฟกัส และจดจ่อ กับ สิ่งที่เราต้องไปให้ถึง หลบซ้าย มองขาว แต่เท้า
ยังซอกแซกไป
ต่อให้เสียงรอบข้างดังแค่ไหน
ปัญหาฝุ่นกระจุย จนแทบมองไม่เห็นทาง
แต่ยังมีแสงสว่าง ของ คอนเสิร์ต
ให้เรามอง และเดินต่อไป
พอไปถึงเราจะเจอคนที่เห็นเหมือนกัน
ชีวิตมันเหมือนดูคอนเสิร์ตแน่ๆ
จงเป็นกำลังใจให้ซึ่งกันและกัน
ภาพสนุกดอทคอม
ONE OK ROCK
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ทำไม NETFLX ถึงมีแต่คนโคตรเก่ง
ทำไม NETFLX ถึงมีแต่คนโคตรเก่ง เน็ตฟลิกซ์ ทำหลายอย่างเพื่อเป็นตัวอย่างเรื่องความจริงใจอย่างหนึ่งคือทำกิจกรรมที่เราเรียกว่า “ริเริ่ม ยกเลิก ...

-
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านได้มีโอกาสเข้าร่วมอบรม ด้วยความสนใจที่อยากพัฒนาตนเอง เรื่อง ISO 3 ระบบ ISO 9001:2015 ,...
-
The Truman Show สิ่งที่ได้เรียนรู้จากหนัง The Truman Show เป็นหนังที่ดูแล้ว เข้ากับบรรยากาศวันนี้เป็นแม่หน่อย สิ่งที่คนทุกคนเกิดมาย่อมอยาก...
-
ก่อนอื่นต้องขอกราบขอบพระคุณในการเขียนชี้แนะของอาจารย์จริงๆค่ะ ถือว่าเป็นวิทยาทานเป็นประโยชน์ต่อบุคคลอื่นจริงๆ วันนี้ ต้องขอบอกว่า เจอบทควา...