วันเสาร์, กรกฎาคม 30, 2559
ความสุข
ความสุขในการใชีวิต มัน คือ การใช้ชีวิตตามความหมายของตัวเองในทุกๆวัน
ไม่ว่าจะเจออุปสรรค เจออะไรก็ตาม เรายังมีหลักชัย มีเป้าหมาย เพื่อให้เราเดินตาม..ไม่ต้องเดินตามกระแสพายุที่พัดพา เปลือกทีทำให้หลง .ที่สำคัญ ความสำเร็จมันคือการช่วยให้คนอื่นประสบความสำเร็จก่อนด้วย......นั่นล่ะ คือ คุณค่าของการมีชีวิตอยู่ ....^-
ทำให้เรามีพลังมีไฟในการตื่นมาใช้ชีวิตทุกวัน
มันคือ การรู้ว่า อะไร คือแก่นควรยึด อะไรคือเปลือกควรทิ้ง
วันอังคาร, กรกฎาคม 26, 2559
วันอาทิตย์, กรกฎาคม 24, 2559
ถ้าอยากมีความสุข เริ่มจากการเสพสิ่งดีๆ
อยากเอกสิ่งดีๆอออก็ต้องเอาสิ่งดีๆเข้า
สิ่งที่ต่อสู้ได้ยากที่สุด คือ ความเจ็บป่วย ของร่างกาย เพราะเราไม่สามารถชนะสังขารได้ แต่มีแค่หัวใจเท่านั้นที่จะพาผ่านพ้นความเจ็บป่วยของร่างกาย
สอนให้เรากินแค่มีชีวิตอยู่
สอนให้รู้จักตัดใจ กับความทุกข์ทางใจ
สอนให้เราให้อภัยกับความไม่แน่นอน
สอนให้ราเลือกทำสิ่งที่มีความสุข
สอนให้เราใช้ชีวิต ตามเสียงหัวใจ
สอนให้เราใช้ทุกวัน คือ วันสุดท้าย
อย่าดูถูกความเล็กน้อยในแต่ละวัน
บทเรียน
วันศุกร์, กรกฎาคม 22, 2559
How to..สำหรับผู้สนใจด้านการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล: บริษัทไม่มีเกษียณอายุ ผิดกฎหมายแรงงานหรือไม่ ?
How to..สำหรับผู้สนใจด้านการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล: บริษัทไม่มีเกษียณอายุ ผิดกฎหมายแรงงานหรือไม่ ?: “งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา การทำงานก็ย่อมมีวันสิ้นสุด” และการสิ้นสุดของการทำงานก็มักจะเป็นการเกษียณอายุ ซึ่งการเกษียณอายุนี่แหล...
วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 21, 2559
ข้อดีของความลำบาก
ข้อดีของความลำบาก
ทุกอย่างเกิดขึ้น เพื่อให้เราฝึกรับมือบริหารปัญหาให้ได้
โชคีจังที่ เกิดเจอความลำบาก เคยนอนเพลิงหมาแหงนงานก่อสร้าง เคยเจอความล้มเหลมจนเป็นหนี้ ชีวิต
เหมือนตื่นมาได้โชคทุกวัน
1.มองชีวิตในความเป็นจริง มองดูคนออก
2.เจออุปสรรคเจอทุกอย่างมันแค่ประเดี๋ยว
3.ไม่มีอะไรแย่ ถ้าคุณมีข้าวกิน คือโชคดี
4.ทำให้เรามองทุกอย่าง อย่างเข้าใจ
5.ไม่มีข้ออ้างในการใช้ชีวิต
6.อดทน ไม่ออดๆแอด กับ ข้ออ้าง
7.ปัญหาในครอบครัว คนใกล้ตัว ทำให้เราฝึกเป็นคนแยกแยะ
ขอบคุณค่ะ
วันอังคาร, กรกฎาคม 19, 2559
เรามองข้ามอะไรไปหรือเปล่า
สวัสดีค่ะ คำว่า
ฟังเสียงหัวใจของตัวเอง คือ สิ่งที่มีค่ามาก
แต่การที่เราจะก้าวไปทำอะไร
จงใจเย็นๆ ให้ตั้งอยู่
บนพื้นฐานของความจริง
พิจารณาข้อดี ข้อเสีย
ข้อจำกัดและก้าวที่เราไหว
พิจารณาว่า ถ้าล้มใครบ้างที่เดือนร้อนกับเรา
ใครที่ห่วงเรา ....... ถ้าไม่มี
ความเสี่ยงน้อย ก็ลงมือทำ
หลายวันที่ไม่ได้เข้าโลกออนไลน์
ทำให้เรานึกถึงเรื่องนี้ ได้ คือ
" ของดีที่มองข้าม"
เคยสังเกตุหรือไม่คะว่า
เราไม่ค่อยเชื่อในความสำเร็จของคนใกล้ตัว เพราะ
เราเห็นข้อเสียของเค้าด้วยส่วนใหญ่เราเลยมองข้ามและไม่ค่อยชื่นชมเท่าไหร่
เป็นเรื่องปกติค่ะ
หลายครั้งที่เราชื่นชมคนห่างจากตัวเองซึ่งเราสัมผัสเค้าแค่
มองเห็นรูปลักษณ์ภายนอกคำพูดที่ดูดี เท่านั้น เพราะ ส่วนใหญ่ คนเราแสดงเฉพาะ
ภาพดีๆให้คนอื่นเห็น
ฉะนั้นเวลาเราเห็นใครไกลตัว
เราก็มักชื่นชมคนอื่น มากกว่า โดยที่เราไม่ได้เห็นข้อเสียเค้าเลย
นั้นเป็นเรื่องไม่ผิด
แต่อย่าลืมหันมาชมคนรอบข้างเราบ้างนะคะ มองข้ามข้อเสียและมองเห็นข้อดีของกันและกันชีวิตจะมีความสุขขึ้นเยอะ
The Human Story
กุญแจปริศนาจากการอ่าน
สวัสดีค่ะ เป็นเวลา 3
วันที่เรา งดโลกออนไลน์ เพื่ออยู่กับตนเอง
วันนี้
นั่งมองพระจันทร์แสงไฟ กลางเมืองกรุง นั่งฟังเพลง ริมน้ำโขง ทำให้นึกย้อนเวลา
ที่เคยไปอยู่ที่เมือง หนองคาย ริมน้ำโขง เดินมาถึง
เมืองกรุงมาตามหาความฝันและเป้าหมาย มีช่วงเหนื่อยล้าและอ่อนแอ แต่ก็ต้องทนสู้ไป
เชื่อว่าหลายคนคงอยากกลับบ้าน เช่นกัน
เคยถามมั้ยค่ะ
ว่าชีวิตคนเรา เกิดมาเพื่ออะไร บางครั้งเดินไปเราแทบมองไม่เห็นหนทาง หรือ
แสงสว่างด้วยซ้ำ
หลายครั้งที่เราต้องอยู่คนเดียว
แต่เชื่อเถอะค่ะว่า เมื่อเราผ่านช่วเวลาที่เราอยู่คนเดียวได้
เราจะแข็งแกร่งที่สุดแต่อย่างว่า ไม่มีใครอยู่คนเดียวได้ แต่ในโลกความเป็นจริง
ไม่ขอเล่าล่ะกันค่ะ ถ้าใครยังไม่เจอด้วยตนเองเนอะ ก็ถือว่าโชคดีไป
อยากขอเป็นกำลังใจให้ ค่ะ ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจก้ขอให้สู้ไปอย่าเพิ่งท้อถอย
มันเป็นช่วงเวลาของประสบการณ์
จริงๆ ค่ะ วันนี้อ่านหนังสือไปหลายเล่ม
เจอกุญแจหลายๆอย่างจริงๆค่ะ สังเกตุดีๆเอ่อ
ทุกอย่างมันเชื่อมโยงกันไปหมด คนนั้นเกี่ยวกับคนนี้ ยังไง ทำไมเค้าถึงได้มาเจอกัน
เหมือนหาจิกซอลล์ ในแต่ละเรื่องเจอสนุกดีเหมือนกัน พอเล่ามาถึงตรงนี้
เรายังคิดวิธีการที่จะเชื่อมโยหรือถ่ายทอดมันออกมายังไง
ถ้าผู่อ่านมีไอเดียก็แนะนำได้นะคะ ทุกอย่างมันมี Step จริงๆ ค่ะ เพราะ สถานะตอนนี้เราเขียนได้ แค่ไหนเราจะรู้จุดตนเอง
กำลังนั่งนึกรูปแบบน่าตาเว็ป ว่าจะออกมารูปแบบไหน คิด ยังไม่ตก สู้ต่อไปทาเคชิ
ยังต้องหาจุดของตนเองเจอ
ถ้าไม่มีความล้มเหลวเกิดขึ้นเราคงไม่ทำนี่ร่ะข้อคิด
“ข้อดีของความล้มเหลวหากเราผ่านมันมาได้
เราจะแข็งแกร่งและมองปัญหาอื่นๆเล็กลงค่ะ”
สูดลมหายใจลึกๆ และเดินต่อค่ะ
The Human Story
วันศุกร์, กรกฎาคม 15, 2559
ลุกขึ้นมาสนุกและรับมือกับปัญหาดีกว่า
คนเราไม่ว่าจะผ่านเรื่องดีหรือร้ายมาก น้อย
ขนาดไหน ไม่มีเวลาที่เราต้องมานั่งเสียใจกับสิ่งที่ทำ เพราะว่า ชีวิต
สั้นเกินกว่าที่จะมานั่งเสียใจ
ให้ลุกขึ้นมาลุย และสนุกกับปัญหา หัดช่างมัน บ้าง หัวเราะและสนุกกับ ความทุกข์
สนุกกับปัญหา ยิ้มๆไปเถอะ
เอาเข้าจริงๆกว่า
จะถึงจุดนั้นได้ ก็ยากอยู่นะ
คนเราเกิดมาพร้อมกับ
โลกธรรม 8
เป็นของคู่กัน
มีความสุขและยิ้มกับมันอย่างมีความสุข ดีกว่าค่ะ
คนเราจะตัดสินใจได้ดีขึ้น
ก็เมื่อเคยผิดพลาด
คนเราจะแกร่งขึ้น
ก็เมื่อเจอความเจ็บปวด
คนเราจะรู้สุข
รู้ทุกข์ได้ ก็เมื่อเจอความทุกข์
แล้ววันหนึ่ง
หากเราไม่ยอมแพ้ไปกับมัน เราจะรู้ว่า
ทุกอย่างเกิดขึ้นกับเราย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ
สู้ต่อไปนะทาเคชิ
วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 14, 2559
ข้อคิดจากขนมผิง คุณค่าที่ไม่เท่ากัน
ข้อคิดจากขนมผิง คุณค่าที่ไม่เท่ากัน
วันนี้เราไม่รู้จะเขียนเรื่องอะไรดี
ของเขียนแง่คิดดี ที่วันนี้เราเดินทางกลับบ้านแล้วเดินขึ้นสะพานลอย คือในใจคิดนะ
ช่วงที่เราเหนื่อยจากการเดินทางทำให้ลดระดับการออกกำลังกายลง จะทำยังไงดีนะ
ถึงจะออกกำลังกายน้อยๆ อ๋อ คือกินให้น้อยลง ซักพักเดินไปขึ้นสะพานลอยเพื่อต่อรถกลับบ้านไปอีกต่อหนึ่ง
ไปเจอขอทางเราเดินผ่าน เราไม่ชอบให้เงินขอทาน ที่ไม่ทำอะไรเลยร้องเพลง อ่ะให้ คนหาของมาขายอ่ะให้
เดินผ่านไปถึงคุณตาหาบเร่ ขายขนมต่างๆดูจากลักษณะแล้วคือ เย็นแล้วไง
แล้วจะขายหมดเหรอ ดึกแล้วนะแล้วขนมเหลือต็ม เราเดินผ่านเราก็ไม่ได้มีมากมายหรอก เดินเลยแล้ว ก็เลยนึกขึ้นได้ เอ่อไม่กินข้าวก็ได้
ซื้อให้คุณตาแล้วกัน เลยเดินกลับมา
ซื้อไป ราคา 35
บาท คุณตาแทบจะไว้แล้วไว้อีก ขนมผิงถุงนี้ถ้าถูกใส่ขวดโหลและตีราคาคงเดือบร้อย สวยงามแต่อย่างว่า
เราลองแบ่งมาทำกับคนที่เดือนร้อนยังลำบากบ้างช่วยกันไป มันก็มีความสุขนะ ไม่ได้บอกว่าจิตใจดีหรืออะไรนะคะ ออกตัวก่อน
สิ่งที่มันได้ คือ ตรงนี้ค่ะ
เปรียบกันคนเราเวลาทำอะไรให้ใครไม่ได้ผลตอบแทนไม่ใช่ประเด็นประเด็นอยู่ที่ว่าคนเราให้ค่าไม่เท่ากัน
บ้างคนให้มากบ้างคนให้น้อย กับสิ่งที่เราทำให้
5
บาทบางคนมีคุณค่าต่อครอบครัว กับอีก 5 บาทบางคนแค่เท่านั้น
ถ้าเลือกได้เราก็ต้องลงมือทำให้กับคนที่เห็นคุณค่าดีกว่า
เลือกแคร์คนที่เรารักและรักเรา ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขค่ะ
“คนเราให้ค่าสิ่งของไม่เท่ากัน
แต่ถึงแม้ไม่ได้อะไร จงทุ่มเทและลงมือไป กับคนที่เห็นคุณค่า”
ชีวิตคุณจะมีความสุขกว่า
สู่ต่อไป เคชิ
วันพุธ, กรกฎาคม 13, 2559
ทุกอย่างคือ ครู
ทุกอย่างคือ
ครู
หากเรามองทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาคือ
ครู คือโอกาสที่ขัดเกลา
ตัวเราให้ดีขึ้นนั่น คือสิ่งที่ดี หลายๆครั้ง เวลาเราตั้งใจทำอะไรซักอย่าง พอเราเจออะไรเราก็จะยอมแพ้หาข้ออ้างว่าเหนื่อยบาง
พักบ้าง จนมันก็ทำให้เราล้มเลิกไปในที่สุด นั่นคือสิ่งที่ง่ายที่สุดที่ทำให้เราล้มเลิกความตั้งใจ
อย่างเช่นวันนี้ดึกแล้ว แต่พ่อนึกถึงความตั้งใจ เขียนดีไม่ดี แต่ขอให้เราฝึกทุกวัน
มีเป้าหมาย รออยู่
วันนี้เข้าใจเลยนะคะว่า
ที่พ่อแม่เราบอกว่า เรายังมีอะไรหลายอย่างในชีวิตที่เราต้องเจออีกมาก
วันที่เราไม่มีเค้าเราจะลำบาก ฉะนั้น โชคดีแค่ไหน ที่เรามีพ่อแม่ คอยประคอง
คนที่ไมมีใคร เค้าก็ต้องต่อสู้ดิ้นรน ซึ่ง สมัยนี้ไม่ง่าย
หลายๆอย่างในเหตุการณ์ ทุกอย่างจะสอนเรา
วันหนึ่งเราจะขอบคุณความลำบาก ขอบคุณอุปสรรค ขอบคุณทุกอย่าง สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น
มันอาจแย่ สุดๆ แต่ทุกอย่างในชีวิตที่เกิดขึ้น มันคือ สิ่งที่ดีที่สุดเสมอ
บนโลกนี้มี่อะไรง่าย อยู่ที่เรายอมรับความจริง ที่เข้ามา แต่พอเอาเข้าจริงๆ เราก็เกือบแย่เช่นกัน
บางครั้ง
บางคนก็ได้มาอะไรง่ายๆมากแต่บางคนพยายามแทบตายกว่าจะได้มา เราอาจเห็นคุณค่าต่างกัน
จงมีความสุข
กับ สิ่งที่เจอ ในอดีตอาจทำให้เรารู้สึกแย่ แต่ วักวัน
เราจะหันไปขอบคุณมันอย่างเข้าใจ
ชีวิตคนเรามั้นสั้น ทำทุกวันให้เหมือนวันสุดท้ายของชีวิต
วันนี้เราเต็มที่หรือยังกับสิ่งที่อยากทำ ตั้งใจทำต่อไปค่ะ
ที่สำคัย
ทุกอย่าง ต้องใช้เวลและความอดทน มีขั้นมีตอนเสมอ
ทาเคชิ
มีความสุขกับทุกวันค่ะ
วันจันทร์, กรกฎาคม 11, 2559
ตามหา “โค้ชชิ่ง ... Coaching” ให้เจอ
ตามหา “โค้ชชิ่ง ... Coaching”ให้เจอ
ทำไมชีวิตเราจึงต้องมีโค้ช
เพราะ คนเรามีความรู้ความสามารถและจุดเด่นที่แตกต่างกัน
แต่ความรู้และประสบการณ์บางครั้งไม่ได้ถูกจัดวางให้ถูกที่ ถูกทางเท่าที่ควร
สำหรับใครที่เริ่มตัวเอง จากศุนย์หรือจากติดลบโตมาในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้อ
ความสำเร็จ นั้น กว่าจะใช้พลังกายพลังใจ คือ เค้าต้องพยายามสุดๆ
เพื่อที่จะออกยืนในจุดที่อาจเป็นจุดเริ่มต้น
นักกีฬาที่ประสบความสำเร็จหรือบุคคลที่ประสบความสำเร็จนั้น
ความสำเร็จของหลายๆคน นั้น ส่วนใหญ่มาจาก เค้ามีคนชี้แนะหรือให้โอกาส
มีคนเคยกล่าวไว้ความสำเร็จ
เกิดจาก 3 อย่างต้องปประกอบพร้อมกัน (โอกาส+เวลา + ความสามารถ) เค้าถึงประสบความสำเร็จได้
โค้ช คือทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
พ่อแม่ ครอบครัว ถ้าอยู่ในโรงเรียนก็ครูอาจารย์ โตหน่อยคือ ผู้สอนงาน
เพราะ
ความสามารถทุกคนที่สามารถฝึกได้ทุกคน
อย่างที่บอก ปัจจัยทุกอย่าง ต้องเอื้อ ในการจัดให้เค้าคนนั้นอยู่ ถูกที่ ถูกเวลา
และถูกทาง คือ ต้องมีคนคอบบอกว่าจะทำอะไรบ้าง หรือ ไม่ควรทำอะไร
หรือควรเดินซ้ายขาวบ้าง แต่ตัวเค้าเองก็ต้องเปิดใจ เช่นกัน
อ่อนน้อมเป็นฟองน้ำซึมซับความรู้ และอาจารย์จะมา
ไม่เช่นนั้น งนงวยกว่าจะไหนได้ก็พายหรืออยุ๋ในอ่าง
ลองสังเกตดูก็ได้ค่ะ
ว่า เบื้องหลังของคนที่ประสบความสำเร็จนั้น มีคนอยู่เบื่องหลังความสำเร็จเสมอซะส่วนใหญ่
ฉะนั้น
นอกจากจะทำตามเป้าหมายแล้ว เราต้องตามหาโค้ช ในการโค้ชเราด้วย แต่ถึงอย่งนั้น
ถ้าเจอโค้ชที่ผิดตัวก็ทำให้เราไม่ไปไหนได้เช่นกัน
เป็นเรื่องท้าทาย เช่นกันค่ะ
บนโลกใบนี้มีอะไรให้ ค้นหาอีกเยอะ
คิดบวกและทำประโยชน์เพื่อผู้คนเยอะ ๆ เราจะ มีความสุข
ขอบคุณค่ะ
วันอาทิตย์, กรกฎาคม 10, 2559
46ช.ม.จากการฟัง365วันกับโลกหนังสือ
#46ช.ม.จากการฟัง365วันกับโลกหนังสือ
เมื่อปีที่แล้ว 46 ชั่วโมงกับการนั่ง
ฟังคนอื่นโดยไม่พูดอะไร ฟังและฟัง
อย่างเดียว
ทำให้เราได้อะไรเยอะเลย
ได้อะไรจากการฟัง และอ่าน
ข้อดีของการอ่าน เผื่อเป็นประโยชน์
ลองสละเวลาอ่าน
วันนี้มีเรื่องให้ขอบคุณ 3 อย่าง
1.ถ้าไม่โดนตำหนิให้ไปอ่านหนังสือ
เราคงไม่ทำไม่ขวานขวย ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ท่านนั้น
2. ผลจากข้อ 1
การอ่านหนังสือยิ่งอ่านยิ่งโง่ แต่มันทำให้เรารู้เอาจากการศึกษาหาข้อมูลว่า
ที่อ่านๆเสพๆกัน บางทีบน โลกอินเตอร์เน็ตก็เขียนไม่จริง บางทีเขียนจากความได้ยิน คัดลอกมาผิดๆก็มี
3. ทำให้เราเป็นคนไม่ตัดสินเพียงแค่ได้
ยิน ได้เห็น ได้อ่าน วิเคราะห์ อะไรรอบตัวนานขึ้น
เรื่องนี้ ต้องพิสูจน์ เองค่ะ
วันเสาร์, กรกฎาคม 09, 2559
คนปั่นสามล้อและคนมุ่งทำเพื่อชนะตนเอง
เรื่องเล่าจาก คนปั่นสามล้อและคนมุ่งทำเพื่อชนะตนเอง
สวัสดี วันเสาร์ค่ะ
วันนี้เรานั่งอยู่ในห้องเงียบๆ อ่านหนังสืออย่างเดียว พักค่ะ
หลายคนถามเราว่าทำไมถึงหยุดในบางเรื่อง
เรื่องออกกำลังกาย ไม่ได้หยุดนะคะ แค่มันเป็นหน้าที่ที่ต้องทำทุกวัน เค้าถามเพราะเดี๋ยวนี้
เราไม่ค่อยโพสต์เรื่องออกกำลังกายเท่าไหร่
แต่ก็ทำทุกวัน เหตุผลเนื่องจาก
อะไรหลายอย่างเกิดคำถามว่าโพสต์ทำไมใครได้อะไรด้วย
เลยอยากจะหยิบเรื่องนี้มาเล่าค่ะ
คนปั่นสามล้อและคนมุ่งทำเพื่อชนะตนเอง
เราได้อ่านหนังสือ “ฉันอ่านฉันจึงเป็น” I
READ,THEREFORE I AM เพราะชอบหนังสือที่บอกเล่าว่า
บุคคลต่างๆชอบหนังสือแนวไหนได้วิธีในการจัดการระบบความคิดอย่างไร เราเริ่มกำหนดความชัดเจนในตัวจนของเราได้
หนังสือเล่มนี้
ชอบเพราะ สไตล์ของคนที่อ่านนั้นแตกต่างตามบุคลิกความคิด อาชีพ และสิ่งที่ทุกคนนั้นเป็นต่างกัน
แต่สิ่งที่เค้าเหล่านั้นมีคือ รักการอ่านเหมือนกัน
พอเปิดหน้ามาเจอหน้า
ในบทของคุณสาธิกา “พลังพิเศษของหนังสือ” ในข้อความหนึ่ง
ของหนังสือที่ยกตัวอย่างในนี้คือ “อินเดียจาริกด้านใน”
การเดินทางของจิตวิญญาณ ของอาจารย์ ประมวล เพ็งจันทร์ ซึ่งชอบในประสบการณ์ที่บอกว่า อาจารย์
เดินทางไปที่อินเดีย
ตั้งเป้าว่าจิตใจจะต้องไม่ขุ่นมัว
เบิกบานใจ จากนั้นก็ออกเดินทางจากเมืองหนึ่งไปเมืองหนึ่ง
เดินทางโดยไม่มีอะไรช่วย จากนั้นเดินไปได้ซักพักหนึ่ง
ชาวอินเดียที่เป็นคนขับสามล้อได้เข้ามาถามว่าเห็นว่าเป็นนักท่องเที่ยว คุณจะไปไหน
อาจารย์ตอบคำถามว่าไปเมืองนี้ แต่ว่าจะเดินไป คนปั่นสามล้อตอบว่า แต่ว่า
เมืองนี้ไกลมากเลยนะ นั่งรถไปก็ได้ แต่ด้วยปณิธานว่าจะเดินทางไปเอง ตามที่ได้สัญญากับตัวเองไว้
ว่าต้องทำให้ได้ตามสิ่งที่ค้นหาอยู่ และเดินต่อไปได้ซักพัก อาจารย์หยุดคิดได้ว่า “ เราตั้งความคิดเรื่องการเดินไว้ทำไมในเมื่อมันไม่ได้สอนให้เราเมตตากับเพื่อนมนุษย์”
ชายชาวอินเดียคนนั้นอาจต้องการเงินก็ได้ ทำไมเราไม่ช่วยเหลือเขา การเดินนี้ ช่วยอะไร
คิดได้อย่างนั้นอาจารย์จึงเรียกสามล้อว่าจะไป คนขับสามล้อดีใจมาก และอาจารย์ได้ถามถึงเรื่องครอบครัว
คนปั่นสามล้อจึงเล่าว่า เขาไม่ได้เงินมาสามวัน แล้ว ถ้าวันนี้ไม่ได้คงไม่รู้จะซื้ออะไรให้ลูกกิน
การนึกถึงแต่ตัวเองไม่นึกถึงคนอื่นเลย เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของอาจารย์
แค่นี้ทำให้เราอยากไปหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านมาก
เราได้อะไรจากเรื่องนี้ ทำให้เราเลิกทำอะไรหลายอย่าง
มากเพราะเรารู้สึกว่าเราทำเพื่อเป้าหมายของตนเองคนเดียวไม่ได้ทำเพื่อคนอื่นเลย
ไม่มีเงินขอให้ใช้แรง ไม่มีโอกาสแค่เราอ่านหนังสือดีๆ
แล้วแบ่งปันความคิดดีไปสู่คนอื่น ส่วนใครจะตัดสินหรือคิดอย่างไร ก็แล้วแต่เขา
อย่างน้อยต้องมี 1
คนที่ได้ประโยชน์ล่ะค่ะ
บางครั้งการที่เรานึกถึงเป้าหมายของตนเองเกินไปทำให้เรา ขาด การเอื้ออาทรต่อคนรอบข้างคนที่ต้องการความช่วยเหลือ
น้ำใจที่เราไม่เคยให้ใคร สุดท้ายความแห้งเหือดในใจเราก็มากขึ้น ทำให้เราเข้าใจความหมายชีวิตว่าในขณะที่เราทำเพื่อตนเองเราแบ่งส่วนเล็กๆที่เราไหวทำเพื่อคนอื่นบ้าง
“จะมีประโยชน์อะไรหากเรามุ่งมั่นเพื่อชนะตนเองอย่างเดียวโดยที่สิ่งนั้นไม่เคยให้คนอื่นได้รับความเอื้ออาทรของเราเลย”
หากใครหมดหวังสู้ต่อไปค่ะ
ทาเคชิ ......จงเชื่อว่า ต้องมีซักวันที่สิ่งดีๆจะเกิดขึ้นกับเรา
แค่มันยังไม่ถึงเวลาเท่านั้นเอง
หลายๆคนบนโลกใบนี้เกิด
ขึ้นมาด้วยต้นทุนที่ต่างๆกัน แต่สิ่งที่เท่ากัน คือ ขนาดสมองที่จะเรียนรู้
การอ่านเป็นการพัฒนาตนเองที่ใช้ต้นทุนน้อยที่สุด
เพื่อที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า ได้ทันโลกภายในและภายนอก
วันศุกร์, กรกฎาคม 08, 2559
แค่ยังไม่ถึงเวลาได้รับสิทธิ์แค่นั้นเอง
สวัสดีกลางดึกค่ะ
วันนี้เป็นวันที่เราได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งเลยทำให้นึกย้อนไปถึงครั้ง
ที่เราอยากทำอะไรบางสิ่ง เราคิดว่า มันดี หรือ ดี แต่สุดท้ายบางครั้ง
เราอาจคิดว่าเราทำดีที่สุดแล้วโดยไม่คิดอะไร แต่เราอาจยังไม่เข้าใจการกระทำ
การวางตัวเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการดำเนินชีวิต
เราต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า
เราจะเป็นใครอย่างไร เพราะทุกการกระทำของเรา คือ สิ่งที่กำหนดชะตาชีวิตเราหมดเลย
หลายครั้งที่เรา
อยากทำในบางสิ่ง หรือ อยากทำในบางเรื่อง
นั้นไม่สามารถทำได้เพราะบางอย่างเป็นเรื่องของ ช่วงจังหวะเวลา
และบางครั้ง
เรายังเก่งไม่พอที่จะได้รับ “สิทธิ์ที่จะทำเท่านั้นเอง”
วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 07, 2559
ไม่รู้ตั้งสติยังไง ลองหันหน้าเข้าหนังสือไปเรียนรู้ตัวเองกัน
ไม่รู้ตั้งสติยังไง
ลองหันหน้าเข้าหนังสือ
สวัสดีค่ะ มาถึงช่วงปลายสัปดาห์ของการทำงาน
แล้ว
จึงอยากเอา
เคล็ดลับดีๆ ในการใช้ชีวิตมาแชร์กัน เคยมั้ยคะที่พลังใจเราในแต่ละวันมีไม่เท่ากัน
ตั้งแต่วันแรกทำงานของต้นสัปดาห์นั้นทำให้เราสมารถหมดพลังใจในการทำงานหรือในการใช้ชีวิตที่สามารถทำให้เราเหนื่อยท้อแท้ก่อนหมดพลังในการทำงานทำให้กลางสัปดาห์ที่เหลือ
ไม่มคุณค่าหรือความหมาย
ผู้เขียนเองเคยมีหรือเคยเจอมาเหมือนกันด้วยตนเอง
ไม่รู้จะตั้งสติหรือรับมือยังไง
เราแก้วิธีด้วยการ หันหน้าเข้าหนังสือ ไม่ใช่การหลอกตัวเองนะคะ แต่มันเป็นช่วงที่เราลองมาตั้งสติกับตนเอง
แรกๆก็ไม่เข้าใจไม่รู้เรื่องหรอก แต่พอเราทำบ่อยๆ
ชีวิตเราที่ต้องบังคับตนเองทำทุกวัน เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในชีวิตเราเอง
เพราะเราตั้งพื้นทฐานอยู่ที่ว่า
เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคนอื่นได้เปลี่ยนได้คือทํสนติดีๆ
เราเอง วันนี้ ลองเปิดหนังสือ บางเล่ม ยกตัวอย่างเล่มนี้ค่ะ ที่ทำให้เรา ค่อยๆ
คิดเงียบๆ กับตนเอง
หนังสือ “พลังของความเงียบ” ลองหยุดอยู่กับตัวเอง
เราอาจมีความคิดหรือไอเดียการใช้ชีวิตเพิ่มเติม
ในระหว่างที่เรามีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ค่ะ
การอ่านทำให้เราค้นหาคำตอบที่ต้องการได้หรือเรียนรู้กับตนเองมากขึ้น หรือ
ทำให้เพลิดเพลิน ก็ได้ค่ะ
ทำสำคัญทำให้เราตั้งสติและใจเย็นขึ้นเพราะเราจะค่อยๆบรรจงกับสมาธิที่จดจ้อง
นี่คือเคล็ดลับดีๆ
เล็กๆน้อยๆที่นำมาฝากค่ะ
ที่สำคัญ สิ่งที่ได้อ่านไม่ต้องเชื่อลองลงมือทำ
สวัสดีค่ะ
วันพุธ, กรกฎาคม 06, 2559
ได้อะไรจากข้างถนน
สวัสดีค่ะ
วันนี้เป็นวันกลางสัปดาห์ล่ะ เรามาถึงที่ทำงานแต่เช้ากลัวรถติด ใน
เมืองกรุงเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ บางวันนะคะ เอาล่ะค่ะ วันนี้ เราขอตั้งหัวข้อว่า “ได้อะไรจากการเดินทางข้างถนน”
เรานั่งรถ 2
ต่อนะ แต่ก่อนก็ไม่เคยนั่งบางทีเรารีบจนไม่ได้เรียนรู้คนข้างทาง
เราเดินอยู่ประมาณ 500 เมตร ทักแต่เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย
หน้าหอพัก จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่แระจำรถเมล์ ค่ะ
สิ่งที่เราได้เห็นคือ
เราได้มีโอกาสทักทายคนอื่นที่อยู่นอกวงโคจร ชีวิตเรา
ได้เห็นความเสียสละของรถที่กำลังขับผ่านไปมาซึ่งแต่ก่อนเราเดินทางมาทำงานไม่เจอใครเลย
บางครั้งเราก็ต้องหลุดออกวงจรเดิมๆเพื่อเรียนรู้เส้นทางใหม่ๆ
ถามว่าได้อะไร มันไม่ได้เป็นผลตอบแทนเป็นเงินหรอกค่ะ แต่สิ่งที่เราได้คือ
เห็นคนอื่นๆกำลังต่อสู้ดิ้นรนมากมาย เห็นคนแก่ข้างทาง เห็นพนักงานคนอื่นที่เค้าต่อสู้ดิ้นรนตื่นแต่เช้าถามว่าบางคนไม่มีสิทธิ์เลือก
บางคนมีความสุขก็ดีค่ะ เราเข้าใจคนอื่นมากขึ้น
ความลำบากที่เราเจอมาหลายรูปแบบจะสอนให้เราเป็นคนเข้าใจคนอื่นต่อสู้ชีวิต
ไม่นำความสบายหรือเงื่อนไขมาเป็นข้ออ้าง
อ่อ
สิ่งที่เราเจอนะคือเราเป็นคนบ้าออกกำลังกายมาก เราก็เลยนั่งถามตัวเองว่า
ที่ออกกำลังกายที่เหนื่อยสาเหตุมาจากอะไร คำตอบ คือ มันมาจากการกิน
เราไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุแต่เรามักแก้ปลายเหตุ
เราก็มาเสียเวลาในการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุทั้งที่จริง แล้วต้นเหตุของความอ้วน
มันคือการกิน มากเกินร่างกายสะสม นั่นเองค่ะ
ที่นึกขึ้นได้เพราะเราเห็นชายคนหนึ่ง
เค้าถือ แกง 1 ถุงกับข้าว 1 ห่อ คนบางคนขอแค่มีข้าวประทังชีวิต ก็เพียงพอแต่
กินมากจนร่างกายอ้วนจนเราต้องมานั่ง ล้างแค้นทีหลัง
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากข้างถนน
คือ
1. อะไรที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ชีวิตเราเป็นอยู่ทุกวันนี้เราต้องตัดออก
เปลี่ยนวิธีการได้มั้ย
2. การเปลี่ยนวิธีคิด ในการใช้ชีวิต
3. ที่ได้คือ
เราได้รับโอกาสดีกว่าคนอื่นตั้งมากมาย ตั้งใจที่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง
4. รักษาโอกาสด้วยการพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ
เพราะไม่มีอะไรแน่นอนต้องเตรียมพร้อมรับมือ
บางครั้งหากเรารู้ว่า
ชีวิตเราเต็มไปด้วยปัญหา ลองตื่นเช้ามาเดินข้างทาง ข้างถนน ดูตั้งแต่แม่บ้าน จนถึง CEO ดูวิถีชีวิตของคนอื่นบ้าง
เราอาจมีมุมคิดที่เปลี่ยนไปอย่างน้อย อัตตา
ในตัวเรานี่ร่ะที่คิดว่าเหนื่อคนอื่นแต่เปล่าเลย
เราไม่ได้มีอิทธิพลกับสิ่งภายนอกเลย
ทำให้เราอยู่อย่างถ่อมตนมากขึ้น
สวัสดีตอนเช้าวันใหม่ค่ะ หวังว่าผู้อ่านคงได้อะไรจากบทความนี้ไม่มากก็น้อย
หากมีข้อปรับปรับเราขอน้อมรับและแก้ไข อย่างเต็มที่ค่ะ
วันอังคาร, กรกฎาคม 05, 2559
แบบฝึกหัดการมองความรู้สึกคนอื่น
แบบฝึกหัดการมองความรู้สึกคนอื่น
สวัสดีเย็นวันอังคารค่ะ
วันนี้
ที่กทม. ฝนตก ตอนเย็นแรงมาก หลังจากที่เราอยู่กับตัวเองซักพัก และเป็นวันแรกในรอบปี
นั่งรถเมล์ไปทำงาน ปกติ ขับ รถจักรยานยนต์ มาทำงาน เราตั้งใจนั่งรถเมล์ให้เลยจุดหมายปลายทางเพื่อที่จะได้เรียนรู้เส้นทางเดินใหม่ๆ
เจอผู้คนใหม่ๆบ้าง เรียนรู้ความเปลี่ยนแปลงจากการเดินทางบ้าง เราเดินข้ามถนน
เดินข้ามทางรถไฟ เดินเจอคน เห็นผู้คนกำลังเร่งรีบ เห็นพระสงฆ์ เห็นเด็ก เห็นขอทาน
เห็นคนรวย เห็นทุกอย่างครบวันนี้
สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น
คือ
ทำให้เราเห็น
ความเปลี่ยนแปลงเห็นโลกใบใหม่การใช้ชีวิต เคยรู้สึกมั้ยว่า เวลาที่เราสังเกตุแววตาของคนหลายๆคน
แววตาของความเหนื่อย แววตาของความท้อแท้ แววตาของคนที่มีความหวัง แววตาของคนไร้เดียงสา
การมองเข้าไปให้เข้าไปถึงความรู้สึก โดยมองข้ามการแต่งตัว ภาพลักษณ์ภายนอก วัตถุประกอบการแต่งกาย
ที่ทำให้คนคนนั้น เป็นอย่างที่เราจะตัดสินเค้าภายนอก
เราขอเรียกแบบฝึกหัดในวันนี้ว่า “แบบฝึกหัดการมองความรู้สึกคนอื่น” เคยได้ยินคำกล่าวหรือเปล่าคะ
ว่า เราจะไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกคนอื่นได้หรอกจนกว่าเราจะได้เป็นแบบนั้นจริงๆ
สัมผัสในจุดที่ยืนอยู่
จะเรียนว่าความโชคดีก็ได้นะที่เราเคยอยู่ในจุดที่ต่ำสุดของชีวิต เราเข้าใจว่า
คนคนหนึ่งเค้าไม่ได้ต้องการที่จะเป็นหรอกบางทีแต่สังคมหรือรูปแบบี่ขัดเกลาเค้าสั่งหรือบีบให้เค้าต้องเป็น
เคยได้ยินคำกล่าวหนึ่งของผู้ใหญ่
ท่านหนึ่ง ค่ะว่า ตอนเราเรียนหนังสือเราไม่อยากเป็นเหมือนคนที่เราเกลียดตอนโตขึ้น
แต่วันหนึ่งวันที่เราโตมาเป็นผู้ใหญ่แล้วเราจิตใจไม่แข็งพอที่รักษาความเป็นตัวเองที่เราอยากจะเป็นนั้น
เราก็อาจกลายเป็นคนที่เราเกลียด
สรุป คือ แบบฝึกหัดการมองความรู้สึกคนอื่น
คือ การที่เราเอาใจของเราเค้าไปอยู่หรือมองในสิ่งที่เค้าเป็นเค้าทำ
พยายามที่ทำความเข้าใจและไม่ตัดสินในสิ่งที่เราไม่สามารถเปลี่ยนเค้าได้ ถ้าเราเข้าใจคนอื่นเราจะมีความสุขขึ้น
สุดท้าย
การตื่นขึ้มามีลมหายใจและพยายามทำให้ดีที่สุดก็ดีแล้วเพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งรอบตัวเราได้เลย
“จงอย่าคาดหวังกับผลภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้แต่จงคาดหวังกับการเปลี่ยนแปลงตัวเราเอง”
แล้วแบบฝึกหัดการมองคนของคุณเป็นยังไงบ้างคะ
เจอกันวันพรุ่งนี้ค่ะ
วันจันทร์, กรกฎาคม 04, 2559
สิ่งที่ได้เรียนรู้ จากการ ที่หู ไม่ได้ยิน
สวัสดีเช้าวันจันทร์ทุกท่านค่ะ
หลังจากที่หยุดไปหลายวัน
เนื่องจากไม่สบาย ข้ออ้างมั้ย
ค่ะ วันนี้มีเรื่องเล่า เรื่องหนึ่ง
เราเคยสังเกตุมั้ยคะว่า
คนที่ไม่มีความสมบูรณ์ทางร่างกายเค้าต้องพยายามมากกว่าเราหลายเท่า คนหูไม่ได้ยิน
เค้าก็พยายาม อ่านหนังสือ คนที่ตามองไม่เห็น เค้าก็พยายาม ใช้สัมผัสที่มือ เพื่อที่เค้าจะสร้างโอกาสให้ตนเองซึ่งโอกาสน้อยมาก
แต่เค้าก็พยายามสุดๆ เราเข้าใจเลยค่ะ
ทำให้เราย้อนกลับไปถึง ซี่รี่เรื่อง แดจังกึม ที่นางเอกประสาทสัมผัสรับรสเสีย ทำให้ทำงานในวังไม่ได้ซึงเค้าต้องทำเกี่ยวกับอาหารการชิมจึงสัมคัญเค้าก็พยายามจนประสบความสำเร็จ
ที่เล่ามาถึงตรงนี้เพราะ เราได้เรียนรู้ การที่หูอื้เพราะว่ายน้ำแล้วไม่ได้ยินเป็นเดือน
เราต้องพยายามเป็นคนฟังให้มากกว่า 2 เท่า
อ่านทำความเข้าใจให้มากกว่า 2 เท่า ไม่อย่างนั้นทำงานไม่ได้ หลายครั้งที่ เราหงุดหงิดตัวเอง เหมือนกัน
เพราะปัญหาหนึ่งจบ ก็เข้ามาอีกปัญหา
วันที่เราได้ยินน้อยลง จากอาการหูอื้อเพราะว่ายน้ำ
กลับทำให้เรา รู้สึกว่าชีวิตมีค่ามากตั้งแต่ตื่นแล้ว หากเราพอใจในสิ่งที่ตนเองมี
พอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น
ดึงสิ่งที่ดีที่สุดออกมาโดยไม่ต้องมองทุกอย่างนอกกายในสิ่งที่เราขาด
เหตุการณ์นี้ทำให้เราอยากตื่นมาใช้ชีวิตทุกวัน ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร เอ่อโชคดีว่ะ
ที่เรายังมีร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วยไม่ไข้ มีญาติพี่น้องที่คอยรักและดูแล
มีคนที่เราต้องทำประโยชน์ เพื่อเค้า และ มีความสุข กับชีวิตทุกวัน
การที่หูไม่ได้ยินทำให้ข้าพจ้าเรียนรู้
ที่จะเข้าใจคนอื่น เรียนรู้ที่จะเข้าใจตนเองมากขึ้น
เป็นคนที่พยายามฟังคนอื่นมากขึ้น
ทำให้เรากลับมาถามชีวิตตัวเอง อยู่กับตัวเองมากขึ้น
ขอให้ทุกวันที่เราตื่นคือวันโชคดีแล้วค่ะ
"ปัญหา มีไว้แก้ สิ่งที่มีก็ให้ดูแล "
สุขสันต์วันจันทร์ ค่ะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ทำไม NETFLX ถึงมีแต่คนโคตรเก่ง
ทำไม NETFLX ถึงมีแต่คนโคตรเก่ง เน็ตฟลิกซ์ ทำหลายอย่างเพื่อเป็นตัวอย่างเรื่องความจริงใจอย่างหนึ่งคือทำกิจกรรมที่เราเรียกว่า “ริเริ่ม ยกเลิก ...

-
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านได้มีโอกาสเข้าร่วมอบรม ด้วยความสนใจที่อยากพัฒนาตนเอง เรื่อง ISO 3 ระบบ ISO 9001:2015 ,...
-
The Truman Show สิ่งที่ได้เรียนรู้จากหนัง The Truman Show เป็นหนังที่ดูแล้ว เข้ากับบรรยากาศวันนี้เป็นแม่หน่อย สิ่งที่คนทุกคนเกิดมาย่อมอยาก...
-
ก่อนอื่นต้องขอกราบขอบพระคุณในการเขียนชี้แนะของอาจารย์จริงๆค่ะ ถือว่าเป็นวิทยาทานเป็นประโยชน์ต่อบุคคลอื่นจริงๆ วันนี้ ต้องขอบอกว่า เจอบทควา...